การเชื่อมด้วยไฟฟ้าเป็นตัวประกอบในการทำงาน โดยการใช้ลวดเชื่อม (Electrode)
ซึ่งเป็นขั้วบวกมาสัมผัสกับงานเชื่อมซึ่งขั้วลบ การเอาประจุไฟฟ้าลบ
(Nagative) วิ่งไปประทะกับประจุไฟฟ้าบวก (Positive) จะเกิดการสปาร์ค (Spark) ขึ้น ซึ่งเรียกว่า อาร์ค (Arc)
ในขณะเดียวกันลวดเชื่อมซึ่งห่อหุ้มด้วยสารเคมีก็หลอมละลายลงไปในงานเชื่อมด้วย
ทำให้โลหะหรือชิ้นงานเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันได้ตามต้องการการเชื่อมด้วยไฟฟ้ามีวิธีปฏิบัติ
ดังนี้
รูปที่ 1
แสดงการตั้งมุมลวดเชื่อมและการเริ่มต้นจุดอาร์ก
ตั้งมุมลวดเชื่อม
ตั้งมุมลวดเชื่อมในขณะเชื่อมมุมลวดเชื่อมจะต้องตั้งให้ได้มุมที่เหมาะสมโดยจะมีมุมเกิดขึ้นจากลวดเชื่อมและชิ้นงาน
คือ มีมุมหน้าลวดเชื่อมกับมุมทางด้านข้าง
ประโยชน์ของมุมลวดนี้ก็เพื่อป้องกันและบังคับสแล็กที่เกิดจากฟลักซ์ให้วิ่งตามรอยเชื่อมและอลุมรอยเชื่อมไว้ไม่ให้อากาศเข้าไปผสมกับรอยเชื่อมได้
มุมหน้าลวดเชื่อมขณะทำการเชื่อมมุมนี้ควร
ตั้งให้ได้ 70-80 องศาโดยสมํ่าเสมอ
มุมด้านข้าง
เมื่อเดินลวดแนวเชื่อมแนวเดียว มุมด้านข้างควรจะ ตั้งให้ได้ 90 องศาตลอดเวลา
มุมด้านข้าง
กรณีที่เชื่อมพอกหรือเชื่อมทับแนวกันหลาย ๆ แนว มุมนี้ควรตั้งมุมลวด ประมาณ 45 ถึง 60 องศา
การเริ่มต้นจุดอาร์ก
ระยะอาร์ก คือ
ระยะที่ใช้เชื่อมชิ้นงาน เพื่อให้การหลอมละลายของลวดเชื่อมกับชิ้นงานติดดี
ระยะอาร์กที่เหมาะสมจะห่างเท่ากับแกนลวดเชื่อม เช่น ลวด 0 3.25 มม.ระยะอาร์กคือ3.25มม.
เริ่มโดยนำลวดเชื่อมจี้ที่ชิ้นงานให้อาร์กเป็นประกายก่อน
ยกให้สูงเพื่อปรับระยะอาร์ก
รูปที่ 2
แสดงงานป้อมลวดเชื่อมการต่อแนวเชื่อมและท่าเชื่อมราบ
งานป้อมลวดเชื่อม
ระหว่างการอาร์ก
ลวดเชื่อมจะละลายประสานแนวเชื่อมทีละน้อย ให้ป้อนลวดเชื่อมลงหาชิ้นงาน
โดยรักษาระยะอาร์กคงที่มุมด้านข้าง ยังต้องรักษาไวให้ได้ 90°
การต่อแนวเชื่อม
งานเชื่อมจะต้องมีแนวต่องาน
เช่น เมื่อเชื่อมไปแล้วหมดลวด หรือหยุดพักก่อนการต่อแนว
ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อยโดยแปรงลวดก่อน วิธีต่อให้เริ่มจากจุดนอกของรอยเชื่อม
เมื่อจุดอาร์กแล้วจึงเดินตามแนวเชื่อม
ท่าเชื่อมไฟฟ้า
การเชื่อมไฟฟ้ามีท่าเชื่อมได้หลายท่าตามลักษณะของการทำงาน
ดังต่อไปนี้
ท่าเชื่อมราบ
ท่าเชื่อมราบเป็นการเชื่อมเมื่อชิ้นงานวางอยู่ล่างลวดเชื่อมขณะเชื่อมอยู่ข้างบน
การเชื่อมท่าราบอาจเป็นงานต่อชน เชื่อมมุมหรือเชื่อมฉาก เป็นต้น
รูปที่ 3
แสดงท่าเชื่อม
ท่าเชื่อมขึ้นและเชื่อมลง
ท่าเชื่อมขึ้น คือ
การเชื่อมเดินลวดเชื่อมขึ้น
บนชิ้นงานที่ตั้งฉากกับแนวระดับชิ้นงานอาจจะต่อชนหรือต่อเป็นมุมฉาก
ท่าเชื่อมลง
เป็นการเชื่อมโดยเดินลวดจากด้านบนลงด้านล่าง
ท่าเชื่อมขนานนอน ท่าเชื่อมขนานนอนเป็นการเชื่อมโดยเดินลวดเชื่อมในแนวระดับนอน
ท่าเชื่อมเหนือศีรษะ ท่าเชื่อมเหนือศีรษะเป็นการเชื่อมที่รอยเชื่อมอยู่สูงและเชื่อมทางด้านล่างของงาน
การเดินแนวเชื่อม
การเดินแนวเชื่อมไฟฟ้าต้องคำนึงถึงแนวเชื่อม
ท่าเชื่อม ชนิดของลวดเชื่อม (ชนิดของฟลักช์หุ้ม) และความหนาของแนวเชื่อม
การเดินแนวทำได้ดังนี้
รูปที่ 4
แสดงการเดินแนวเชื่อม
การเดินแนวเชื่อมแนวระนาบ
เดินแนวตรงไม่ส่ายลวด
แนวเชื่อมเล็ก แนว
นูน
เดินแนวส่ายลวดเชื่อม
ต้องการแนวเชื่อมกว้าง แนวเชื่อมเว้าตรงกลาง
การเดินแนวเชื่อมตั้งขึ้นและลง
ตั้งขึ้น
ให้เชื่อมสายลวดเชื่อมแบบซิกแซ็กขึ้นบน
เชื่อมลง
ส่ายลวดเชื่อมแบบสามเหลี่ยมจากบนลงล่าง
เชื่อมลง
ส่ายลวดเชื่อมแบบครึ่งวงกลมจากบนลงล่าง
ท่าเชื่อมพื้นฐาน
ท่าเชื่อมพื้นฐาน (Position)
คือ ท่าที่ผู้ปฏิบัติต้องกระทำต่อชิ้นงานที่เชื่อม
ในกรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายชิ้นงานได้ ท่าเชื่อมพื้นฐานมี 4 ตำแหน่งท่าเชื่อม
คือ ตำแหน่งท่าราบ (Flat Position) ,ตำแหน่งท่าตั้ง (Vertical
Position) , ตำแหน่งท่าแนวนอน (Horizontal Position) และตำแหน่งท่าเหนือศีรษะ (Overhead Position)
รูปที่ 5 แสดงท่าเชื่อม (มานัส และคณะ. งานช่าง, 2549 :
128)
รอยต่อของงานเชื่อมไฟฟ้า
รอยต่อพื้นฐานที่ใช้ในงานเชื่อมไฟฟ้ามี
5 แบบ แต่ละแบบมีการวางแผ่นโลหะแตกต่างกันดังต่อไปนี้
•
รอยต่อชน (Butt Joint) แผ่นโลหะทั้งสองแผ่นวางชิดติดในแนวเดียวกัน
•
รอยต่อเกย (Lap Joint) ลักษณะการวางโลหะ
ทั้งสองแผ่นเหมือนรอยต่อชนแต่วางทับกัน
•
รอยต่อมุม (Corner Joint) คือ
การวางโลหะ พิงหรือชนกันให้เกิดเป็นมุม
การต่อด้วยรอยต่อนี้ต้องอาศัยปากกาจับชิ้นงานช่วย
•
รอยต่อขอบ (Edge Joint) คือ
การนำแผ่นโลหะ 2 แผ่นมาวางซ้อนกันแล้วเชื่อมต่อขอบของโลหะทั้งสองติดกัน
•
รอยต่อตัวที (T – Joint) แผ่นโลหะแผ่นหนึ่ง
จะนอนและโลหะอีกแผ่นหนึ่งจะตั้งขึ้น ลักษณะเหมือนอักษรภาษาอังกฤษตัวที (T)
รูปที่ 6 แสดงรอยต่อในงานเชื่อมไฟฟ้า (มานัส และคณะ. งานช่าง, 2549 : 129)
ตัวเลขในกล่องลวดเชื่อม
ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ตามมาตรฐาน AWS(American Welding
Society) แบ่งตามประเภทของโลหะ งานเชื่อมได้หลายประเภท
ประกอบด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กหล่อ
และลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์อะลูมิเนียมและอะลูมิเนียมผสม
ลวดเชื่อมแต่ละประเภทยังแบ่งตามสมบัติทางกลและลักษณะการนำไปใช้งานได้หลายชนิด
ลวดเชื่อมแต่ละประเภทจะมีสัญลักษณ์แตกต่างกันตามประเภทของลวดเชื่อม
โดยสัญลักษณ์จะกำหนดเป็นตัวเลขและตัวอักษร ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานเชื่อมจึงมีความจำเป็นต้องอ่านสัญลักษณ์ลวดเชื่อมได้
เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง
รูปที่ 7 แสดงความหมายในกล่องลวดเชื่อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น